การกู้ซื้อบ้านกับธนาคารเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้คุณสามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น โดยที่หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้กู้ควรพิจารณาคือ ดอกเบี้ยบ้าน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อจำนวนเงินที่ต้องชำระในแต่ละเดือนและระยะเวลาผ่อนชำระ ในบทความนี้จะพาคุณไปอัปเดตข้อมูล ดอกเบี้ยบ้าน 2568 จากทุกธนาคาร พร้อมข้อเสนอที่น่าสนใจจากหลายธนาคาร เพื่อให้คุณได้เลือกสินเชื่อบ้านที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวคุณเอง
ดอกเบี้ยบ้าน คือ อัตราค่าบริการที่ผู้กู้จะต้องจ่ายให้กับธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อบ้าน โดยคำนวณจากวงเงินที่กู้ยืมไปใช้ซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งดอกเบี้ยบ้านนี้จะถูกคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ (Rate) ตามระยะเวลาและประเภทของสินเชื่อ
ประเภทดอกเบี้ยบ้านที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่
การเลือกประเภทดอกเบี้ยบ้าน 2568 ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาในการกู้ ความสามารถในการชำระหนี้ และสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต
ดอกเบี้ยบ้าน 2568
ธนาคาร | อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ 3 ปีแรก | วงเงินกู้สูงสุด | MRR |
---|---|---|---|
ธนาคารกสิกรไทย | 3.45% | 100% ของราคาประเมิน | 7.0757.18% |
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา | 3.10% | 110% ของราคาประเมินสำหรับบ้านใหม่ | 7.275% |
ธนาคารไทยพาณิชย์ | 3.32% | 100% ของราคาประเมิน | 7.075% |
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) | 3.20% | ขึ้นอยู่กับหลักประกันหรือรายได้ของผู้กู้ | 6.545% |
ธนาคารกรุงเทพ | 3.55% | 100% ของราคาประเมิน | 7.00% |
ธนาคารกรุงไทย | 3.51% | 100% ของราคาประเมิน | 6.825% |
ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) | 3.30% | 100% ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมิน | 7.705% |
ธนาคารต่าง ๆ มีการเสนอสินเชื่อบ้าน-คอนโดที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำและเงื่อนไขที่น่าสนใจเพื่อช่วยให้คุณมีโอกาสในการเข้าถึงการกู้ซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น นี่คือ 8 ธนาคารที่มี อัตราดอกเบี้ยบ้าน 2568 ที่เฉลี่ย 3 ปีต่ำ พร้อมโปรโมชั่นที่น่าสนใจ
ธนาคารกสิกรไทยมีโปรโมชั่นที่ช่วยให้ผู้กู้สามารถเริ่มต้นการผ่อนชำระได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดในปีแรก ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในช่วงแรกของการกู้
อ้างอิง: Kasikorn Bank
สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จะมีโปรโมชั่นที่ให้เงินคืน 1% ซึ่งเป็นการช่วยลดต้นทุนในช่วงที่เริ่มต้นกู้สินเชื่อบ้าน นอกจากนี้ยังมีอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้
อ้างอิง: Krungsri Bank
ธนาคารไทยพาณิชย์มีโปรโมชั่นที่ช่วยให้การยื่นกู้สินเชื่อบ้านสะดวกขึ้น โดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม พร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำและสามารถยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระได้ตามความสะดวก
อ้างอิง: SCB Banking
ธนาคารอาคารสงเคราะห์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านใหม่ โดยมีการให้ส่วนลดดอกเบี้ยในช่วงแรกเพื่อช่วยให้ผู้กู้สามารถลดต้นทุนในการผ่อนชำระ
อ้างอิง: GH Bank
สำหรับธนาคารกรุงเทพจะมีดอกเบี้ยคงที่ในช่วง 3 ปีแรก ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นคงในอัตราดอกเบี้ย เพื่อป้องกันการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นของการผ่อน
อ้างอิง: Bangkok Bank
ธนาคารกรุงไทยมีอัตราดอกเบี้ยบ้านเริ่มต้นที่ต่ำ พร้อมด้วยโปรโมชั่นที่ช่วยให้ผู้กู้สามารถเริ่มต้นผ่อนชำระได้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
อ้างอิง: KrungThai
ธนาคารทหารไทยธนชาตเสนอโบนัสพิเศษในการกู้สินเชื่อบ้าน ที่ทำให้ผู้กู้ได้รับประโยชน์จากการกู้บ้านที่ไม่เพียงแต่เป็นการผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ แต่ยังมีโปรโมชั่นที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
อ้างอิง: TTB Bank
ดอกเบี้ย = (จำนวนเงินกู้ x อัตราดอกเบี้ยบ้านต่อปี) x ระยะเวลาในการผ่อนชำระ
ตัวอย่าง: หากคุณกู้เงินจำนวน 1,000,000 บาท ดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ระยะเวลา 20 ปี
ดอกเบี้ยทั้งหมด = (1,000,000 x 3.5%) x 20 ปี = 700,000 บาท
การคำนวณนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายทั้งหมดในระยะยาว และสามารถวางแผนการเงินได้อย่างชัดเจน
หากต้องการคำนวณจำนวณเงินทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยหมดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน สามารถใช้สูตรนี้ในการคำนวณได้
ค่างวดในแต่ละเดือน = (จำนวนเงินกู้ + ดอกเบี้ยบ้านที่ต้องชำระทั้งหมด) ÷ จำนวนงวดที่ต้องผ่อนชำระทั้งหมด
ตัวอย่าง:
หากคุณกู้เงินจำนวน 2,000,000 บาท ดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี และระยะเวลา 10 ปี
จำนวนงวดที่ต้องผ่อนชำระทั้งหมด = 120 งวด
ดอกเบี้ยทั้งหมด = (2,000,000 x 3.5%) x 10 ปี = 700,000 บาท
ค่างวดในแต่ละเดือน = (2,000,000 + 700,000) ÷ 120 = 22,500 บาท
ดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (หรือที่บางครั้งเรียกว่าดอกเบี้ยทบต้นดอก) คือ การคำนวณดอกเบี้ยที่คิดจากยอดเงินต้นคงเหลือในแต่ละงวด หมายความว่าในแต่ละเดือน จำนวนเงินต้นที่ต้องชำระจะลดลง และดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายในเดือนถัดไปก็จะลดลงตามไปด้วย
การคำนวณดอกเบี้ยลดต้นลดดอกนั้นจะคิดจากยอดเงินต้นที่คงเหลือหลังจากการชำระในแต่ละงวด สามารถใช้คำนวณทั้งการผ่อนบ้านใหม่หรือรีไฟแนนซ์บ้าน โดยในแต่ละเดือนจะมีการคำนวณดอกเบี้ยใหม่ตามยอดเงินต้นที่ค้างชำระอยู่ โดยวิธีการคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกมีสูตรดังนี้
ตัวอย่าง:
หากคุณกู้เงินจำนวน 4,000,000 บาท ดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ระยะเวลา 30 ปี หรือ 360 งวด จะมีค่างวดในแต่ละเดือน = 22,778 บาท (คำนวณโดยใช้สูตรจากตัวอย่างแรก)
เดือนที่ 1
ดอกเบี้ยในงวด = (4,000,000 x 3.5% x 30) ÷ 365 = 11,507 บาท
เงินต้นที่ต้องชำระ = (22,778 - 11,507) = 11,271 บาท
เงินต้นคงเหลือ = 4,000,000 - 11,271 = 3,966,729 บาท
เดือนที่ 2
ดอกเบี้ยในงวด = (3,966,729 x 3.5% x 30) ÷ 365 = 10,643 บาท
เงินต้นที่ต้องชำระ = (22,778 - 10,643) = 12,135 บาท
เงินต้นคงเหลือ = 3,966,729 - 12,135 = 3,954,594 บาท
ใช้สูตรคำนวณนี้ไปจนครบ 30 ปี หรือ 360 เดือน
การเลือก ดอกเบี้ยบ้าน 2568 ที่เหมาะสมสำหรับคุณนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะดอกเบี้ยบ้านจะมีผลต่อการชำระหนี้ในระยะยาวและค่าใช้จ่ายรายเดือนของคุณ เมื่อคุณเลือกธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยที่ดีที่สุด คุณจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวและมั่นใจได้ว่าโครงการบ้านของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่น
หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อบ้านในปี 2568 อย่าลืมเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารต่าง ๆ และเลือกสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถกู้ซื้อบ้านได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุด
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาให้คำแนะนำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
Line: @brickpaths
Facebook: Brickpaths
Website: www.brickpaths.com
Tel: 091-419-1456
422/33 ซอย อ่อนนุช 17 แยก 16
แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง
กรุงเทพมหานคร 10250